ส่องเนื้อพระกรุบางกะทิงกันจะๆ

สำหรับเซียนพระกรุเนื้อดินหลายๆท่าน คงมีวิธีการดู "พระกรุบางกะทิง" กันดีอยู่แล้ว แต่สำหรับเซียนใหม่ อาจไม่เข้าใจในวิธีการดูพระกรุเนื้อดิน อย่างหลวงพ่อโต กรุวัดบางกะทิง กันแน่

เนื่องจากพระพิมพ์หลวงพ่อโต กรุบางกะทิง นั้นมีการแตกกรุออกมามากมายหลายกรุด้วยกัน ต่างสถานที่ ต่างเวลา และจำนวนมากมายพอสมควร เนื้อหาจึงแตกต่างกันออกไป แถมยังมีแม่พิมพ์ที่พบตอนแตก กรุวัดบางกะทิง ตามประวัติ ซึ่งตอนนี้ไม่ทราบว่าอยู่ที่ใหนบ้าง และก็มีพระปลอมออกมาทั้งจากแม่พิมพ์ หรือการแกะพิมพ์ขึ้นมาใหม่ ยังมีการถอดพิมพ์จากองค์พระแท้อีก ทำให้นักสะสมพระกรุเนื้อดินหน้าใหม่ในสมัยนี้ค่อยๆนิยมลดน้อยถอยลง

แต่ราคาพระ กรุบางกะทิง กับพุ่งทะยานสวนทางกันไป เพราะนักสะสมรุ่นเก่ายังคงต้องการพระ กรุบางกะทิง ที่ขึ้นชื่อเด่นดังด้านพุทธคุณแคล้วคลาดคงกระพันชาตรี แบบแมลงวันยังไม่ได้กินเลือด พระกรุบางกะทิง มีประวัติที่ผมเคยได้ลงไว้ให้อ่านในบทความกันบ้างแล้ว คราวนี้เรามาดูกันว่าจะพิจารณาอย่างไรให้มั่นใจได้ว่าเป็น พระกรุบางกะทิง  

พระกรุบางกะทิงมีอยู่ด้วยกัน 2 พิมพ์

1.พิมพ์ปางสมาธิ

2.พิมพ์ปางมารวิชัย

กรุบางกระทิงอยุธยา

ผมจะไม่อธิบายเรื่องพิมพ์นะครับ เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าพระกรุหลวงพ่อโต กรุบางกะทิง มีปลอมโดยใช้แม่พิมพ์เก่าด้วย ซึ่งเหมือนมากๆ แต่เนื้อไม่ใช่เลย ซึ่งคราวนี้ผมจะให้ท่านพิจารณาดูเนื้อ ของพระหลวงพ่อโต กรุบางกะทิง ซึ่งผมมีอยู่ 6 องค์ด้วยกันครับ ถึงสีสรรจะไม่เหมือนกันเลยแต่ความเก่าแกร่งนั้นใกล้เคียงกัน และจุดสำคัญคือ จะมี "แร่ดอกมะขาม" ผสมอยู่ในเนื้อทุกองค์  "แร่ดอกมะขาม" คืออะไร ? หลายคนเริ่มสงสัย

กรุบางกระทิงอยุธยา
 
หากพิจารณาจากภาพที่ผมถ่ายมาให้ชมกัน เป็นพระหลวงพ่อโต กรุบางกะทิง 6 องค์ เนื้อพระจะมีเม็ดแร่เล็กๆเป็นจุดสีแดงๆอมน้ำตาลนั่นแหละครับ คือ "แร่ดอกมะขาม" สัญนิษฐานว่า คนสมัยก่อนคงนำไปเปรียบเทียบกับ ดอกมะขาม ซึ่งจะเป็นดอกเล็กๆตูมๆ สีแดงอมน้ำตาล ประมาณนั้น จึงนำมาเปรียบเปรยกับเนื้อพระที่มีเม็ดมวลสารเล็กๆสีแดงอมน้ำตาลว่า "แร่ดอกมะขาม"
กรุบางกระทิงอยุธยา

เนื้อดินพระ กรุบางกะทิง ทั้ง 6 องค์นี้ ผมถ่ายเฉพาะด้านหลังองค์พระทั้งหมด เนื่องจากจะสังเกตุเห็น "แร่ดอกมะขาม" ลอยออกมาชัดเจนทุกองค์ ซึ่งแร่ดอกมะขาม เม็ดเล็กๆสีแดงอมน้ำตาลเหล่านี้ ต้องฝังติดแน่นอยู่เป็นเนื้อเดียวกันกับเนื้อพระนะครับ บางเม็ดอาจจะแข็งแกร่งเป็นมัน เหมือนเม็ดกรวด ใช้กล้องส่องพระส่องดูก็จะเห็น ไม่ใช่เหมือนเอาสีมาแต้มๆ ลอยๆอยู่บนเนื้อพระนะครับ

หากท่านใดมี พระกรุบางกะทิง อยู่ก็ลองนำมาพิจารณาโดยใช้กล้องส่องพระส่องไปให้ทั่วองค์พระนะครับ ว่ามีแร่เม็ดเล็กๆ สีแดงอมน้ำตาลฝังแน่นอยู่ในเนื้อพระบ้างหรือไม่ และอีกจุดหนึ่งที่ควรสังเกตุ นั่นก็คือ เนื้อดิน กรุบางกะทิง นั้นซึ่งมีอายุหลายร้อยปี จะต้องมีความแกร่ง แน่น เก่าตามอายุด้วยนะครับ ซึ่งถ้านำมาเทียบเคียงกับพระเนื้อดินยุคเกจิสร้าง อย่างพระเนื้อดิน หลวงพ่อปานวัดบางนมโค หรือ หลวงปู่ยิ้มวัดเจ้าเจ็ด ก็จะเห็นว่าพระหลวงพ่อโต กรุวัดบางกะทิง เนื้อจะเก่าแกร่งกว่ามากๆ ถ้าเนื้อใกล้เคียงกันกับพระยุคเกจิ พิมพ์ใช่ ก็จะเข้าข่ายใช้แม่พิมพ์เก่า ปั๊มใหม่นะครับ

กรุบางกระทิงอยุธยา

กรุบางกระทิงอยุธยา

กรุบางกระทิงอยุธยา

 

กรุบางกระทิงอยุธยา

กรุบางกระทิงอยุธยา

 

กรุบางกระทิงอยุธยา