levi big e
levi big e

Levi's big e ลีวายส์บิ๊กอี ราคาแพง!

เป็นเรื่องที่หลายคนสงสัยอีกแล้ว...คือ เรื่องของ ลีวายส์บิ๊กอี (LEVI'S Big E) คืออะไร ทำไมคนที่ชื่นชอบ กางเกงยีนส์ ลีวายส์สายวินเทจจึงชอบกันนักหนา พูดถึงกันจัง และราคามันก็แพงมากกว่ากางเกงยีนส์ลีวายส์ดั้งเดิมปกติทั่วไป มันมีความน่าสนใจอย่างไรกันนะ?

สำหรับ กางเกงยีนส์ ที่ได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในโลก และทนทรหดที่สุดในโลก เป็นยี่ห้อแรกของโลก ก็ต้องยกให้กับลีวายส์ (LEVI'S) ซึ่งนายลีวาย สเตราส์ ได้คิดออกแบบชุดที่มีความทนทานเพื่อจำหน่ายให้กับพนักงานที่ทำงานในเหมืองทองคำ ที่อเมริกาตั้งแต่ยุคสมัยที่เขาเรียกกันว่า "ยุคตื่นทอง"

เนื่องจากชุดทำงานในเหมืองสมัยนั้นไม่ทนเอาเสียเลย เดี๋ยวเป้ากางเกงขาด เดี๋ยวกระเป๋ากางเกงขาด ด้วยเหตุนี้ลีวายส์จึงได้ร่วมมือกับช่างตัดเสื้อผ้า ชื่อ จาคอป เดวิส  โดยใช้ผ้า "เดนิม" มีลักษณะเหมือนกับผ้าใบ

ผ้าเดนิมในสมัยนั้นมีสีน้ำตาลใช้สำหรับเป็นผ้าเต็นท์คลุมสินค้า และคลุมรถเกียวนคาราวาน ถูก "จาคอป เดวิส" นำมาตัดเป็นกางเกง และตอกด้วยหมุดย้ำโลหะ (Rivet) ตามมุมของกระเป๋าเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระเป๋ากางเกงของเขา

และในเวลาต่อมาจึงมีการย้อมสีผ้า "เดนิม" ด้วย Indigo (อินดิโก) พืชชนิดหนึ่ง สีฟ้า คล้ายๆ ผงคราม ที่บ้านเราใช้ลงผ้าขาว หรือเหมือนกับสีที่ย้อมเสื้อหม้อห้อม เนื่องจากสีน้ำเงินนั้น คือ สีสัญลักษณ์ของชุดพนักงาน นับแต่นั้นมากางเกงที่ผลิตจากผ้า "เดนิม" เมื่อถูกตัดเย็บเป็นกางเกง จะถูกเรียกว่า "ยีนส์" ตามภาษาสเปนแหล่งกำเนิดของผ้าเดนิมยุคนั้น และเป็นสีน้ำเงินครามที่พวกเราคุ้นเคยตลอดมา 

นับตั้งแต่ยุคแรกที่มีการผลิตกางเกง "ยีนส์ลีวายส์" ก็ได้มีการจดสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า ในทุกชิ้นส่วนของกางเกงยีนส์ลีวายส์จะถูกนำไปจดลิขสิทธิ์ทั้งหมด เช่น กระดุม, หมุดย้ำ, ป้ายโลโก้, ป้ายเรดแท็ป, ลายบนกระเป๋าหลัง เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึง ความเป็น "ยีนส์ลีวายส์" ของแท้

ลีวายบิ๊กอี Big E Jeans

เรามาต่อกันเรื่องของ "Big E" (บิ๊กอี) 

คงไม่ต้องสังเกตกันให้ยุ่งยาก ว่ากระเป๋าหลังของกางเกง "ยีนส์ลีวายส์" ใบที่อยู่ด้านขวามือนั้น จะมีแถบริบบิ้นสีแดงเข้มเล็กๆ ติดอยู่อย่างชัดเจน แต่ที่ต้องสังเกตกันดีๆ นั้น ในป้ายสีแดงที่เรียก "เรดแท็ป" (Red Tab) นี้ จะมีตัวอักษรภาษาอังกฤษ อ่านว่า "LEVI'S" (ลีวายส์) สีขาวอยู่ภายใน 

สำหรับเจ้า ลีวายส์บิ๊กอี นี้ ก็ดูกันตรงจุดนี้หละครับ ถ้าเป็น (LEVI'S) "E" พิมพ์ใหญ่แบบนี้ ก็คือ "บิ๊กอี" แต่ถ้าเป็น (Levi's"e" พิมพ์เล็กแบบนี้ ก็คือป้าย "Red Tab" ยุคปัจจุบันทั่วๆไปครับ

แล้วเจ้า ลีวายส์บิ๊กอี "LEVI'S"  นี้ทำไมมันถึงมีความนิยมมากกว่า "Levi's" ปัจจุบันทั่วไปหล่ะ?

Red Tab

เนื่องจาก ลีวายส์บิ๊กอี  (LEVI'S) นี้เป็นกางเกงยีนส์ที่ผลิตในยุคแรกๆ และปัจจุบันนี้มันหายากมากๆ ใครมีเก็บไว้ในสภาพดีๆ ก็จะหวงแหนกัน หรือไม่ก็เอาไปขาย

กางเกงยีนส์ Levi's นั้นจะเริ่มติดริบบิ้น Red Tab (LEVI'S) "E" ตัวพิมพ์ใหญ่ ในปี 1936 ไปจนถึงปี 1971 (ก่อนปี 1936 Levi's ไม่ได้ติดริบบิ้น Red Tab) หลังจากปี 1971 ได้มีการเปลี่ยนป้ายริบบิ้นเรดแท็ป (Red Tab) เป็น (Levi's) "e" ตัวพิมพ์เล็ก (อีตัวเล็ก) มาจนถึงปัจจุปันทุกวันนี้

โดยทางบริษัทให้เหตุผลว่า ชื่อของลีวาย สเตราส์ จะต้องเขียน Levi's อักษรตัวหน้าพิมพ์ใหญ่และตามด้วยตัวอักษรพิมพ์เล็ก ถือเป็นตัวอักษรชื่อที่ถูกต้อง ไม่ใช่ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด  

สรุปว่า

ปี 1936 : แท็บริบบิ้นสีแดง (Red Teb) จะถูกวางไว้บนกระเป๋าด้านหลังขวา คำว่า "LEVI’S®" เย็บเป็นสีขาว อักษรทั้งหมดเป็นอักษรพิมพ์ใหญ่ แท็บนั้นสร้างขึ้นเพื่อแยกความแตกต่างของกางเกงยีนส์ Levi’s ®  ลีวายส์ overalls จากคู่แข่งที่มีอยู่มากมายในตลาดที่กำลังใช้ผ้าเดนิมสีเข้ม และปักครอสติช

ปัจจุบันกางเกงยีนส์ที่ผลิตในยุคนี้จะถือเป็นกางเกงยีนส์โบราณวินเทจ หาสภาพสวยๆ ยากเพราะผ่านกาลเวลามาหลายสิบปี หากพบเจอในสภาพสวยๆ ราคาก็จะแพงมาก ที่ผ่านมากางเกงยีนส์ levi's big e สภาพสวยสมบูรณ์จะมีการซื้อขายกันหลักแสนบาทขึ้นไปเลยทีเดียวครับ

ปี 1971 : Levi Strauss & Co. กลายเป็น บริษัท มหาชน และรวมถึงแถลงการณ์ค่านิยมในหนังสือชี้ชวน Levi Strauss Japan ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อผลิตกางเกงยีนส์ลีวายส์จำหน่ายในภูมิภาคเอเซีย และได้รับเครื่องหมายการค้าอย่างเป็นทางการของ บริษัท ในตลาดเอเชีย   คำว่า "Levi's ® บนชิ้นส่วนแท็บสีแดงตอนนี้ ตัวอักษร "L" ถูกเย็บด้วยสีขาว และเป็นตัวพิมพ์ใหญ่เท่านั้น ในส่วนของอักษร “ E” ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนแปลงไปเป็น "e" ตัวเล็ก นำไปสู่แนวคิดเสื้อผ้าวินเทจโบราณ "Big E" เป็นกางเกงยีนส์ลีวายส์วินเทจ และ "Little e." เป็นกางเกงยีนส์ลีวายส์ในยุคใหม่ แต่ถึงอย่างไรก็ตามกางเกงยีนส์ "Little e" ที่ผลิตในช่วงปี 1971-1991 ช่วงประมาณ 20 ปีนี้ ก็ยังถือเป็นงานที่ได้รับความนิยมเช่นกัน

และเนื่องจากตลาดมีความต้องการเจ้าตัว "ลีวายส์บิ๊กอี" (levi's big e) มาก จนทำให้มีการซื้อขายกันในราคาสูง ทางบริษัทลีวายส์ จึงได้มีทำการรีโปรดักส์ (Re-Product) "ลีวายส์บิ๊กอี" (levi's big e) ขึ้นมากขายอีกครั้ง เป็นงาน LVC (Levi's Vintage Clothing)

แต่ก็ใช่ว่าจะผลิตออกมาขายในจำนวนที่มากมายนัก ในส่วนของผลิตภัณฑ์ LVC ส่วนใหญ่ก็จะเป็น "ลีวายส์บิ๊กอี" (levi's big e) และจะทำมาจำนวนจำกัด ใช้ผ้าเดนิมทอหน้าแคบ มีแถบ "ริมแดง" ถือเป็นงาน Premium ถึงแม้ว่าจะเป็นงานรีโปรดักส์ หากเป็นของแท้ ราคาก็ยังคงแพงกว่างานสายการผลิตทั่วๆไปอยู่ดีนะครับ

สำหรับมือใหม่ก็ควรจะศึกษา "ลีวายส์บิ๊กอี" (levi's big e) ไว้ให้ถ่องแท้ เพราะมันมีงาน LVC เกิดขึ้นมาในปัจจุบันนี้ด้วย คนเล่นยีนส์เขาถือว่าไม่ใช้ "ลีวายส์บิ๊กอี" ดั้งเดิม หรืองานยีนส์วินเทจ Vintage Jeans ที่หายากและมีราคาแพง