กรุวัดคู้สลอด
พระกรุวัดคู้สลอด อยุธยา เป็นพระเนื้อผงพุทธคุณผสมผงวิเศษของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค สันนิษฐานว่ามีอายุการสร้างประมาณ 100 ปี เป็นพระที่แตกกรุออกมาครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2506 โดยถูกขโมยเจาะเจดีย์วัดคู้สลอด อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกมาจำนวนหนึ่ง
พระกรุวัดคู้สลอด มีพิมพ์ทรงต่างๆ มากมาย เช่น พิมพ์ทรงไก่ พิมพ์ทรงหนุมาน พิมพ์ทรงเม่น พิมพ์ทรงครุฑ พิมพ์พระสมเด็จแบบ 7 ชั้นและแบบ จันทร์ลอย เป็นต้น องค์พระส่วนใหญ่มีขนาดเล็กกระทัดรัด มีขนาดโดยประมาณ 2-3 เซนติเมตร
พระกรุวัดคู้สลอด เป็นพระที่ขึ้นชื่อเรื่องพุทธคุณ โดยเฉพาะด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยม เล่ากันว่าสมัยก่อนมีทหารคนหนึ่งถูกยิง แต่เนื่องจากทหารคนนั้นแขวนพระกรุวัดคู้สลอดไว้ จึงรอดชีวิตมาได้ จึงเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่า พระกรุวัดคู้สลอด เด่นมากทางด้านคงกระพัน
พระกรุวัดคู้สลอด เป็นพระที่ได้รับความนิยมสูงในหมู่นักสะสมพระเครื่อง เนื่องจากเป็นพระที่หายากและมีพุทธคุณสูง ปัจจุบันราคาซื้อขายอยู่ที่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับสภาพความสมบูรณ์ของพระ
พระกรุวัดคู้สลอด เป็นพระเครื่องที่เชื่อกันว่ามีพุทธคุณสูง แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยม จึงเป็นที่ต้องการของนักสะสมพระเครื่องเป็นอย่างมาก
พระเครื่องกรุวัดคู้สลอด พระเครื่องเนื้อผงลงกรุ และไม่ลงกรุ หลวงพ่อปานประธานฝ่ายสงฆ์ พิธีพุทธาภิเษก พระกรุวัดคู้สลอดตามประวัติที่ทราบต่อๆกันมา คือ พระอาจารย์พงษ์อดีตท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดคู้สลอด อำเภอเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เดิมเป็นพระลูกวัดอยู่วัดบางนมโค เป็นศิษย์ของ หลวงพ่อปาน โสนันโท ต่อมา หลวงพ่อปาน ท่านได้ให้ไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคู้สลอดที่ว่างลงในขณะนั้น พระอาจารย์พงษ์ได้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคู้สลอดแล้วเห็นว่า เสนาสนะภายในวัดนั้นชำรุดทรุดโทรมเป็นอย่างมาก และสมควรแก่เวลาจะต้องบูรณปฏิสังขรขึ้นใหม่แต่ทางวัดนั้นขาดกำลังทรัพย์ จึงได้สร้างพระขึ้นด้วยผงวิเศษที่ท่านได้รวบรวมมา และมีผงวิเศษที่หลวงพ่อปานใช้อุดพระเนื้อดินของท่านผสมอยู่ด้วย
พระกรุวัดคู้สลอดนั้นหนึกนุ่มไปด้วยน้ำมันที่ผสมกับผงวิเศษ เมื่อทางวัดทำการกดพิมพ์พระได้จำนวนพอสมควรหนึ่งแล้วจึงนิมนต์ หลวงพ่อปาน โสนันโท มาช่วยปลุกเสกโดย หลวงพ่อปาน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ซึ่ง หลวงพ่อปาน ก็เมตตาปลุกเสกให้ แต่ศิษย์ หลวงพ่อปาน ส่วนใหญ่นั้น กลับมองเห็นว่า พระอาจารย์พงษ์นั้นสร้างพระเลียนแบบ หลวงพ่อปาน เพราะได้ใช้แม่พิมพ์แบบพระประทับนั่งบนสัตว์พาหนะคล้ายกับพระ หลวงพ่อปาน ที่เป็นเนื้อดิน จึงกล่าวหาว่าวัดรอยเท้าพระอาจารย์ คงมีเพียงพิมพ์พระสมเด็จและพิมพ์จันทร์ลอยเท่านั้นที่แปลกแยกออกมาเป็นเอกลักษณ์ พระวัดคู้สลอดชุดนี้ได้นำออกให้บูชาหาเงินมาสร้างเสนาสนะและเจดีย์ที่ชำรุดทรุดโทรม ครั้นหมดความจำเป็นในการสร้างแล้ว พระที่เหลือพระอาจารย์พงษ์ได้นำลงบรรจุกรุในเจดีย์ใหญ่ทั้งหมด พระอาจารย์พงษ์ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสอยู่ระยะหนึ่งก็ลาสิกขามาใช้ชีวิตแบบฆราวาสมีครอบครัว แต่ชาวบ้านก็ยังคงเรียกว่าอาจารย์พงษ์ตลอดมาจนถึงแก่กรรม
พระวัดคู้สลอดนี้หากไม่บรรจุกรุ ก็จะเป็นพระที่แจกในระหว่างที่อาจารย์พงษ์ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสจะเป็นเนื้อปูนน้ำมันสีเหลืองอมเขียวหรือสีเหลืองอมน้ำตาล แต่หากเป็นพระที่ออกจากกรุจะมีคราบฟองเต้าหู้จับหนาสลับกับคราบขี้มอด พระเจดีย์ที่บรรจุพระกรุวัดคู้สลอดนั้นถูกคนร้ายทะลวงได้พระออกมาประมาณหนึ่งลำเรือ ชะล่าพระนี้ทางวัดมารู้เมื่อสายไปแล้วจึงได้แต่พระก้นกรุขึ้นมา และได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามยึดพระคืนเป็นข่าวเป็นข่าวคราวกันอยู่พักหนึ่งแล้วก็เงียบหายไป พระวัดคู้สลอดเป็นพระเนื้อผงที่มีอานุภาพทางเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดเป็นหลักใหญ่ใจความ และมีผู้นิยมเสาะหาด้วยว่าเป็นพระที่ หลวงพ่อปาน ท่านได้ปลุกเสกเอาไว้นั่นเอง
