กรุวัดบางปลาหมอ
พระเนื้อดินกรุวัดบางปลาหมอ หลวงพ่อสุ่นยอดปรมาจารย์ สร้างไว้ให้ลูกหลานชาวบางปลาหมอ อยุธยา พระกรุวัดบางปลาหมอ มีพิมพ์ทรงต่างๆ มากมาย เช่น พระพิมพ์พระพุทธรูปประทับนั่งปางสมาธิ พระพิมพ์พระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัย พระพิมพ์พระปิดตา พระพิมพ์นางพญา พระพิมพ์พิมพ์สมเด็จ และพิมพ์อื่นๆ อีกมากมาย องค์พระส่วนใหญ่มีขนาดเล็กกระทัดรัด มีขนาดโดยประมาณ 2-3 เซนติเมตร
หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอท่านเป็นพระอาจารย์ที่สำคัญยิ่งรูปหนึ่ง ของอยุธยา ในสมัยรัชกาลที่ 3 ถึง รัชกาลที่ 5 ซึ่งศิษย์เอกของท่านก็คือ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และ หลวงพ่อจงวัดหน้าต่างนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศิษยานุศิษย์ในสายของ หลวงพ่อปาน และ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ย่อมทราบถึงสังฆคุณและนามของหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ พอสมควรเนื้อหาในส่วนที่เกี่ยวกับหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอนั้น จะมีการกล่าวถึงด้วยความเคารพยกย่องเป็นอย่างสูง ในหนังสือ " ปะระวัติหลวงพ่อปาน "ซึ่งเล่าโดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ด้วยฐานะที่หลวงพ่อสุ่นนั้น เป็นพระอุปัชฌาย์ของ หลวงพ่อปาน ซึ่งเป็นผู้วางรากฐานด้านการปฏิบัติกรรมฐาน สรรพวิชาต่าง ๆ ซึ่งสำเร็จได้ด้วยกสิณ รวมถึงวิชาหมอ ซึ่ง หลวงพ่อปาน ได้นำมาสร้างบารมีเมตตาต่อสัตว์โลก
หลวงพ่อสุ่น ท่านนี้ไม่ธรรมดา เชี่ยวชาญทางด้านคาถาอาคมหลายอย่าง วัตถุมงคลของท่านสร้างไว้ไม่มากนัก พบเห็นได้น้อย ถ้าพบเจอก็จะมีสภาพไม่สวยทั้งสิ้น สวยๆนั้นหายากยิ่ง นับว่าในปัจจุบันพบเจอได้น้อยเต็มทีแถมคนยังไม่ค่อยรู้จักพิมพ์ทรง ที่พบเห็นได้บ่อยๆก็จะเป็นพระเนื้อดินพิมพ์ต่างๆของ หลวงพ่อปาน ลูกศิษย์ของท่าน พระเนื้อดินของหลวงพ่อสุ่นท่านจะเนื้อหยาบๆมีพบเห็นเม็ดกรวดทั่วองค์ แตกต่างจากของ หลวงพ่อปาน ต้องนำทรายไปร่อนก่อน เอาแต่เนื้อละเอียด มวลสารประกอบไปด้วยเนื้อดิน ผสมผงพุทธคุณ จัดสร้างเมื่อประมาณปี 2400 กว่าๆ โดยส่วนหนึ่งบรรจุไว้ในเจดีย์ เมื่อครั้นปี พ.ศ.2494 เจดีย์เกิดชำรุดแตกร้าวพระเครื่องดินเผา ซึ่งหลวงพ่อสุ่นสร้างบรรจุเอาไว้จึงแตกออกมา ซึ่งชาวบ้านบางปลาหมอที่ได้พระไปบูชาก็ต่างหวงแหนอย่างที่สุด เพราะ มีประสบการณ์ดี ในด้านแคล้วคลาด คง กระพันชาตรี นอกจากนี้ ยังเล่าขานกันว่าพระเครื่องของท่านสามารถป้องกันภัย จากลมพายุฝนฟ้าคะนองได้ดีเยี่ยม เนื่องจากชื่อเสียงท่านไม่ขจรขจาย เป็นเพียงพระเกจิอาจารย์ดังในท้องถิ่นจึงทำให้ผู้คนไม่ค่อยรู้จักวัตถุมงคลของท่าน แต่หากพบเจอที่ไหน เก็บไว้ให้ดีๆ จะเป็นสิริมงคลยิ่งนัก
พระกรุวัดบางปลาหมอแบ่งเป็น 3 พิมพ์ ดังนี้
1.พระพิมพ์กลีบบัว เล่ากันว่าปี พ.ศ.2494 เจดีย์องค์หน้าโบสถ์หลังใหม่ สร้างสมัยหลวงพ่อสุ่นเกิดแตกร้าว กรุพระเครื่องเนื้อดินเผาที่หลวงพ่อสุ่นสร้างบรรจุไว้แตกออกมา ชาวบ้านพบเห็นเข้าจึงเก็บเอาไปมากบ้างน้อยบ้าง พอทางวัดทราบเรื่องกรุพระกลีบบัวแตกก็รีบไปเก็บมารักษาไว้ แต่ก็เหลืออยู่ไม่เท่าไหร่แล้ว ลักษณะของพระพิมพ์กลีบบัว เป็นทรงแบบกลีบบัว เนื้อพระสีแดง แบบพระเนื้อดินเผาทั่วไป กับอีกสีหนึ่งคือสีดำเนื้อละเอียด พุทธลักษณะด้านหน้าเป็นองค์พระปฏิมานั่งปางสมาธิเพชร พระพักตร์กลม ไม่มีพระเนตรและพระโอษฐ์ ลักษณะลำพระองค์กลมหนา พระชานุ(เข่า) โตทั้งสองข้าง ไม่มีอาสนะเนื้อพระแห้งสนิทอัดแน่น
2.พระพิมพ์กลีบบัวฟันปลา กรุแตกออกมาเมื่อครั้งที่พระครูโกวิทวิหารการ เจ้าอาวาสทำการรื้อวิหารพระพุทธไสยาสน์องค์เล็กที่ชำรุดทรุดโทรมสมัยหลวงพ่อสุ่นสร้างไว้ ทางวัดต้องการบริเวณที่ดังกล่าวสร้างฌาปนสถาน เมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ.2528 ปรากฏว่าพบพระพิมพ์กลีบบัวฟันปลา บรรจุอยู่ในตุ่มใบเล็กๆ ตรงช่วงหมอนรองรับพระเศียรของพระพุทธไสยาสน์ในตุ่มมีพระ อยู่ 300 องค์เท่านั้น ท่านเจ้าอาวาสจึงเอาออกมาให้แก่ผู้ที่มาขอบูชา รายได้ทั้งหมดนำไปตั้งเป็นกองทุน “มูลนิธิหลวงพ่อสุ่น” และพระก็หมดไปเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ลักษณะพระพิมพ์กลีบบัวฟันปลานี้คล้ายกับพิมพ์กลีบบัว แต่ด้านบนสุดจะป้านไม่แหลมเหมือนกลีบบัว เรียกว่าไม่ได้ตัดกรอบพิมพ์นั่นเอง ฐานล่างใต้อาสนะเป็นกลีบบัวเล็กๆ สลับกัน องค์พระอวบหนา พระชานุโต(เข่า)
3.พระพิมพ์กลีบบัวปลายแหลม คล้ายพิมพ์กลีบบัวเนื้อพระออกแห้ง สีนั้นบางองค์ออกแดงออกเหลืองบางองค์ก็มีดำแทรกเนื่องจาก เวลาเผาพระสุดแล้วแต่ว่าองค์ไหนจะอยู่ใกล้ไกลไฟเผามากน้อยแค่ไหน พระจะปรากฏคราบกรุจากดินปลวกบ้างประปราย แต่บางองค์ก็ไม่มี
สรุป พระเครื่องเนื้อดินเผา หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ เป็นพระเครื่องเกจิอยุธยาเก่า สร้างบรรจุกรุไว้ในจำนวนไม่มากนัก และหาชมยาก ใครมีเก็บไว้บูชาย่อมเป็นสิริมงคลยิ่งนัก
