บารมีหทัยเวส เข้มขลังอลังการ

ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวเวสวัณ) หรือท้าวกุเวร มีหน้าที่ปกครองบริวารทางทิศเหนือของสวรรค์จตุมหาราชิกา ด้วยท่านมีจิตเมตตาและศรัทธาต่อพระพุทธเจ้า ท่านจึงได้นำเหล่าบริวารของท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ทิศเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า และถวายสัตย์ที่จะดูแลปกป้องพระพุทธเจ้าและสาวก ไม่ให้ยักษ์ อสูร ภูตผี ปีศาจ วิญาณร้าย หรือบริวารอื่นๆ ของท้าวจตุโลกบาลทั้งหมดมารังควาญ เหตุเนื่องจากบริวารบางพวกยังไม่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา

ครั้งนี้เว็บไซต์ "ยีนส์ซ่า" ขอกล่าวถึง ท้าวเวสสุวรรณ ที่จัดสร้างทางสายเหนือกันบ้าง ถึงจะไม่ใช่พระเครื่องอยุธยา แต่ก็น่าหามาบูชาไว้อย่างยิ่ง สำหรับ ท้าวเวสสุวรรณ รุ่น "บารมีหทัยเวส"

อันสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา เป็นสวรรค์ชั้นที่ใกล้กับโลกมนุษย์ที่สุด มีท้าวจตุโลกบาลปกครองอยู่ทั้งสี่ทิศ โดยมี

ท้าวเวสสุวรรณ บารมีหทัยเวส
บารมีหทัยเวส ด้านห้า

 

1.ท้าวกุเวร ( ท้าวเวสสุวรรณ ) ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศเหนือ เป็นยักษ์ 3 ขา มีฟัน 8 ซี่ มี 4 กร พระวรกายขาวกระจ่างสวมอาภรณ์งดงาม มีมงกุฎเป็นน้ำเต้าทรงอยู่บนพระเศียร, แต่มีรูปกายพิการร่างกายกำยำล่ำสันดูแข็งแรงรูปร่างสมส่วน, มือขวาถือกระบองยาว พวกยักษ์เป็นบริวาร และเป็นอธิบดีหรือหัวหน้าของท้าวจตุโลกบาลทั้งหมด

2.ท้าววิรุฬหก ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศใต้ รูปกายสีขาวรูปร่างสมส่วนงดงาม, มีหน้าแดง, มือซ้ายมีงูเลื้อยพันฝ่ามือจับคองูไว้, มือขวาถือพระขรรค์, มีมงกุฎประดับด้วยรูปนาค มีพวกอสูรเป็นบริวาร

3.ท้าวธตรฎฐ์ ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศตะวันออก รูปร่างสูงโปร่งและสูงกว่าทุกๆองค์ใน 4ท้าวจตุโลกบาลมีผิวกายสีเขียว, มือซ้ายถือพิณ, มือขวาดีดพิณ พวกคนธรรพ์เป็นบริวาร

4.ท้าววิรูปักษ์ ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศตะวันตก มีรูปกายสีขาวรูปร่างอ้วนใหญ่เหมือนกระพ้อมใส่ข้าว,ท้องป่องพุ่งใหญ่,คอก็สั้น,หัวโต,ฟันขาวเขี้ยวโง้งออกจากปาก,มีริมฝีปากนูนๆตาใหญ่มาก,ขาสั้น,กำยำลำสัน,มือซ้ายถือธนูทรงอาภรณ์สีแดงเลือด มีฝูงนาคเป็นบริวาร

ท้าวเวสสุวรรณ บารมีหทัยเวส
บารมีหทัยเวส ด้านหลัง

ประวัติท่านก่อนที่จะมีพระพุทธศาสนาหรือพระพุทธเจ้า ท่านเป็นพราหมณ์ ชื่อ “กุเวร” มีอาชีพทำไร่อ้อยแล้วนำอ้อยที่ได้ไปเข้าหีบยนต์ บีบน้ำอ้อยออกมาขาย กิจการรุ่งเรืองจนมีหีบยนต์ 7เครื่อง ด้วยความที่มีเมตตาท่านจึงนำผลกำไรที่ได้สร้างเพิงพักและนำหีบยนต์เครื่องที่ทำน้ำอ้อยได้มากที่สุด นำไปทำน้ำอ้อย บริจาคให้กับผู้เดินทางผ่านสัญจร และผู้ยากไร้ได้ดื่มกิน ทำทำเช่นนี้จนสิ้นอายุขัย ด้วยผลบุญนี้เอง ทำให้ท่านเกิดมาเป็นเทพบุตรบนสวรรค์ นามว่า “กุเวรเทพบุตร” และท่านได้บำเพ็ญเพียรภาวนาอยู่หลายพันปี จนได้รับเทวาภิเษก ครองราชย์ดูแลสวรรค์ชั้นที่ 1 พระนามว่า “ท้าวเวสสุวรรณ” ปกป้องและดูแลทรัพย์สินของเทวโลกทั้งหมด ท่านจึงได้ชื่อว่าเป็น"จ้าวแห่งทรัพย์ จ้าวแห่งความร่ำรวย"อีกด้วย

สำหรับ “ท้าวเวสสุวรรณ รุ่น บารมีหทัยเวส” หลวงปู่จันทร์ โชติโก วัดน้ำแป้งวนาราม จังหวัดพะเยา

ปลุกเสกพิธีใหญ่ด้วยกัน 2 วาระ

วาระที่ 1 : วัดสุทัศน์เทพวราราม ต้นตำรับแห่งท้าวเวสสุวรรณ วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2559

1.หลวงปู่ครูบาจันทร์ โชติโก วัดน้ำแป้ง

2.หลวงพ่อสะอาดวัดเขาแก้ว

3.หลวงพ่อสิริ วัดตาล

4.หลวงพ่ออิฐ วัดจุฬามณี

5.หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ฯ

6.หลวงพ่อชำนาญ วัดชินวรารามฯ

7.หลวงพ่ออนันต์ วัดบางพลีน้อย

วาระที่ 2 : วัดพระสิงห์ เชียงใหม่ วันที่เสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2559

1.ครูบาจันทร์ โชติโก วัดน้ำแป้ง

2.หลวงพ่ออั๋น วัดธรรมโฆษก

3.ครูบาอินตา วัดศาลา

4.ครูบาอินถา วัดต้นโชค

5.ครูบาอินสม วัดป๋างน้ำฮ้าย

6.พระเทพสิงหวราจารย์ วัดพระสิงห์

7.พระราชวิสุทธญาณ วัดป่าดาราภิรมย์

จำนวนสร้าง มีดังนี้

เนื้อทองคำ 29 องค์

เนื้อเงิน 299 องค์

เนื้อนวะโลหะ 499 องค์

เนื้อชนวนพิเศษ 799 องค์

เนื้อปลอกกระสุน 399 องค์

เนื้อบรอนส์นอก 999 องค์

ถือได้ว่าเป็น ท้าวเวสสุวรรณ ขนาดห้อยคอ ที่มีความงดงามมากๆ และมีพิธีพุทธาภิเษกที่เข้มขลังมากอีกด้วย