ลองยิงพระเครื่อง ทำไมต้องลองของ?

พระเครื่อง คือ วัตถุมงคล มีติดตัวไว้เพื่อให้มีสติ รู้จักผิดชอบ ชั่วดี ให้ตั้งมั่นในการกระทำความดี และพระจะคุ้มครองคนดีมีศีลธรรม ใครมีพระเครื่องดีๆ ติดตัวไว้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย หากตั้งมั่นประกอบแต่กรรมดีด้วยแล้วยิ่งส่งผลในทางที่ดี อย่างที่ หลวงปู่ดู่วัดสะแก กล่าวไว้ “ติดวัตถุมงคล ดีกว่าติดสิ่งอัปมงคล”

ผมได้ดูคลิป หลายๆ คลิป ที่มีการนำพระเครื่องมาลองกัน ด้วยการใช้ปืนยิงไปยังพระเครื่อง บางคลิปปืนยิงไม่ออก บางคลิปพระแตกกระจายเป็นรู บุบบี้ไปด้วยแรงของกระสุนปืน แน่นอนครับ สิ่งที่เราเห็นเหล่านี้เป็นสิ่งที่อธิบายได้ชัดเจน ด้วยผมนั้นเรียนทางด้านวิศวกรรมเครื่องกลมาด้วยแล้ว หลักการทางวิทยาศาสตร์หาคำตอบได้ ไม่ว่าคลิปที่ทำให้ปืนยิงไม่ออก หรือบางคลิปปืนยิงใส่พระทุกองค์ ทุกรุ่น ผลที่ได้คือ พระเครื่องเหล่านั้นเสียหายด้วยแรงกระสุนปืน ซึ่งสิ่งที่เราเห็นเหล่านี้นั้นไม่สามารถบ่งบอกได้ว่า พระเครื่องที่ยิงไม่ออกนั้นจะมีอนุภาพป้องกันกระสุนปืนได้เสมอไป (ของแบบนี้มันดัดแปลงกันได้) หรือบางคลิปพระเครื่องเหล่านั้นถูกยิงจนเสียหายก็ไม่สามารถบอกได้ว่าพระเครื่องที่ท่านพระสงฆ์ได้ทำพิธีอันเป็นมงคลแล้วนั้นจะไม่สามารถเชื่อถือได้อีกต่อไป

 

ลองพระเครื่อง

เรื่องของความเชื่อ ถือกำเนิดมาตั้งแต่มนุษย์เริ่มใช้สมองคิดและจินตนาการในสิ่งต่างๆ ได้แล้วหลายพันปี หากมนุษย์ไม่มีความเชื่อ การสูญพันธ์ของเหล่ามวลมนุษย์คงเกิดขึ้นไปแล้ว หากเราต่างคนต่างอยู่ สมัยก่อนมนุษย์อยู่ในป่าร่วมกับสัตว์ร้าย ก็ถูกสัตว์ป่าล่าเป็นอาหาร จึงต้องรวมกลุ่มกันและต้องมีผู้นำ และผู้นำเหล่านั้นต้องสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มของตนเอง และรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนสร้างความสามัคคีกัน เพื่อต่อสู้และป้องกันเผ่าพันธุ์ตนเองไว้ การสร้างขวัญกำลังใจก็ต้องมีเรื่องของไสยศาสตร์ เทพเจ้า ศาสนา และอภินิหาร เข้ามาช่วย ด้วยกันทั้งนั้น เผ่าพันธุ์ไหนไม่มีสิ่งยึดเหนี่ยวและอยู่โดดเดี่ยวย่อมถูกทำลาย ที่เราอยู่มาได้ทุกวันนี้ก็ด้วยความเชื่อและความศรัทธารวมถึงความนอบน้อมถ่อมตน การกราบการไหว้การสักการะล้วนฝึกให้เราอ่อนน้อมถ่อมตนต่อกันและกัน

ยุคนี้เปลี่ยนไป มนุษย์ไม่ได้อยู่ในป่าต่อสู้กับสัตว์ร้าย (เพราะถูกมนุษย์ทำลายไปเกือบหมด) มนุษย์สร้างอาณาจักรเป็นเมืองใหญ่รวมกันเป็นสังคมใหญ่ บางกลุ่มถือว่าความคิดตนเองเป็นใหญ่ ล้วนแล้วแต่เห็นขัดแย้งในเรื่องความความเชื่อในอดีตที่เคยปลูกฝังมายาวนาน บางคนถึงขึ้นท้าทาย ทำลาย ด้วยความคึกคะนอง เช่น ไปทำลายไปลบหลู่ด้วยการไปเยี่ยวรดศาลพระภูมิ หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บ้าง แน่นอนครับยุคสมัยนี้อาจไม่เป็นไร แต่ถ้าย้อนไปสมัยอดีตคนเหล่านี้อาจมีชีวิตที่ไม่ปกติได้ แต่ถึงจะเป็นในยุคปัจจุบัน คนเหล่านี้ก็ไม่สามารถมาเป็นผู้นำคนกลุ่มใหญ่ๆ ได้ ลองคิดดูสิว่า หากผู้นำประเทศใดๆ เป็นคนที่ชอบท้าทายความเชื่อหรือ ไปทำลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ นาๆ ที่คนส่วนใหญ่สักการะ ผลออกมาจะเป็นอย่างไร ถึงผู้นำลักษณะนี้จะมีคนบางกลุ่มที่เห็นด้วยและชอบเหมือนกันแต่ก็ไม่สามารถนำคนกลุ่มเหล่านี้ทำการใหญ่ให้สำเร็จลุล่วงได้ ก็เพราะด้วยคนในกลุ่มนั้นก็ไม่ได้เชื่อถือผู้นำ และไม่เชื่อถือกันและกัน ก็คงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใครได้โดยง่าย ผลสุดท้ายความสามัคคีย่อมไม่เกิด ดังนั้นเราจึงเห็นว่าผู้นำแต่ละประเทศในอดีตมักต้องสร้างสิ่งเคารพสักการะใหญ่ๆ เพื่อเป็นจุดศูนย์กลางของความสามัคคี

ในอดีตผมเคยดูข่าว มีกองกำลังกลุ่มหนึ่ง ใช้รถถังระดมยิงใส่พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สลักจากภูเขา เหตุเพราะไม่ต้องการให้มีสัญลักษณ์ของศาสนาอื่น แต่ไม่นานนักกลุ่มกองกำลังเขาก็พบกับหายนะ ถูกเครื่องบินทิ้งระเบิดและถูกโจมตีด้วยจรวดรวมถึงถูกกวาดล้างอย่างหนัก เหมือนกับสิ่งที่เขาทำลงไป นั่นไม่ได้ยืนยันว่าเกิดจากกรรมหรือการกระทำต่อพระพุทธรูป แต่แสดงให้เห็นถึงความไม่อ่อนน้อม และบ่งบอกถึงความแข็งกร้าวจนเป็นเหตุนำพาซึ่งการต่อสู้และสงคราม เกิดความสูญเสียอย่างมากมาย

ดังนั้นการทดลองพระเครื่องในรูปแบบต่างๆ เพื่อต้องการเห็นพุทธคุณ หรืออะไรก็แล้วแต่ ผมเห็นว่าไม่สมควรกระทำ เพราะพระเครื่องคือวัตถุมงคล ซึ่งให้ผลดีกับคนที่มีความเชื่อถือและศรัทธาในด้านต่างๆ เช่น ด้านโชคลาภ ด้านแคล้วคลาดปลอดภัย ด้านเมตตา มีคนรักใคร่เอ็นดู เพราะคนที่แขวนพระนั้นย่อมต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีศีลธรรม สิ่งดีๆก็จะเกิดกับชีวิต

ลองพระเครื่อง

ผมห้อยพระไว้ ก็คงไม่ได้คาดหวังว่าจะให้ใครเอาปืนมาจอยิงผมแน่นอน เมื่อก่อนผมก็เคยถูกยิงด้วยลูกซองสั้นเบอร์ 12 ลูก 9 ถูกจ่อยิงในระยะ 4-5 เมตร ลูกยังไม่บานเกาะกลุ่มกันดี วิถีกระสุนวิ่งเข้าที่ บริเวณหน้าอกใต้ไหปลาร้าด้านขวาเต็มๆ ขณะนั้นผมคล้องพระ และที่แขนขวาฝังตะกรุดทองคำ แน่นอนครับ ด้วยอานุภาพของกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 มันเข้าเต็มๆ 4 เม็ด ฝังในอยู่ทุกวันนี้ และอีก 2 เม็ดถากๆ ไปติดอยู่กับหัวไหล่ ไม่เข้า ตอนถอดเสื้อออกมาลูกกระสุนจึงหลุดร่วงออกมาทั้ง 2 เม็ด ถามว่าพระเครื่องและวัตถุมงคลที่ผมติดตัวนั้นมีพุทธคุณด้านไหน จะบอกว่าอยู่ยงคงกระพัน ก็ได้ เพราะตอนนั้นผมก็ไม่ได้ถูกยิงตาย แต่จะบอกว่าหนังเหนียวคงไม่ใช่เพราะเข้าถึง 4 เม็ด และถ้าบอกว่าแคล้วคลาดก็ได้ เพราะคนยิง จับปืนด้วยมือขวาเล็งมาที่ตัวผม ซึ่งยืนประจันหน้ากัน แต่วิธีกระสุนกลับเบี่ยงเบนไปเข้าที่หน้าอกขวาผม ทั้งหมด กลับไม่พุ่งเข้าตรงด้านซ้ายใกล้ขั้วหัวใจ และกระสุนที่เข้าบริเวณหน้าอกก็ไปฝังใน และชอนไชไปทั่ว จนไปตุงอยู่ด้านหลัง ใต้รักแร้ ไม่ถูกอวัยวะสำคัญเลย หมอดูฟิล์มเอ็กสเรย์ ยังบอกว่าโชคดี ผมนอนรักษาตัวเพียง 3 วันก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ หากจะบอกว่าเพราะพุทธคุณของพระเครื่องจึงทำให้ผมแคล้วคลาดรอดชีวิตมา ก็ย่อมได้ หรือจะบอกว่ามือปืนยิงไม่แม่นก็ได้ หรือบอกว่าศูนย์ปืนไม่ดีก็ได้ แต่ลูกซอง 9 เม็ดระยะ 4-5 เมตร คงไม่ต้องเล็งประณีตกันมากหรอกครับ ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรก็ตาม ที่สำคัญคือ ชะตาผมยังไม่ถึงฆาต และมีโอกาสใช้ชีวิตต่อไป

ปัจจุบันผมมีพระเครื่องและวัตถุมงคล ก็เพื่อเป็นการเตือนสติ อย่าได้คิดชั่ว หรือคิดร้ายกับใคร จงหมั่นถือศีลทำความดีให้ได้มากเพื่อจะได้รับความเมตตาจากคนรอบข้าง ทำการงานสิ่งใดขอให้ประสบความสำเร็จได้ด้วยดี และได้พบเจอแต่คนดีๆ คนมีศีลธรรมก็ย่อมเกื้อหนุนกันไป อย่าได้พบคนพาลคนไม่ดี และที่เรามีวัตถุมงคลหรือพระเครื่องติดตัว ก็ต้องคอยหลีกเลี่ยงสถานที่ “อโคจรหรือสถานที่อัปมงคล” ซึ่งก็จะทำให้เรามีชีวิตที่อยู่รอดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง จริงๆแล้ว พระเครื่องวัตถุมงคลนั้น หลวงปู่ดู่วัดสะแกก็ได้กล่าวไว้ว่า “พระเครื่องวัตถุมงคลนั้น คือ ดีนอก” หมายถึงช่วยเตือนสติให้เราหมั่นทำความดี หากเรามีความดีมีศีลธรรมประจำใจแล้วละก็ ไม่ต้องคล้องพระเครื่องวัตถุมงคลก็ได้ เพราะนั่นคือ “ดีใน” หมายถึงมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ประจำใจ ไม่จำเป็นต้องมีพระเครื่องวัตถุมงคลใดยึดเหนียวอีกต่อไป แต่หลายๆ คนก็ยังไม่สามารถกระทำได้ 

สรุปว่าหากเราเป็นชาวพุทธ ก็จงอย่างได้นำพระเครื่องไปทดลองยิงกันเลย เป็นการลบหลู่ครูบาอาจารย์และความศรัทธากันโดยเปล่าประโยชน์ ถึงแม้ใครจะแขวนพระเครื่องอะไร ก็คงไม่อยากให้ใครเอาปืนมาจ่อยิงใส่เป็นแน่แท้ หากจะมีชีวิตให้รอดพ้นคมกระสุนปืน หรือการถูกทำร้าย จงตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท ไม่ไปในสถานที่อันตรายและมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ จะดีกว่าครับ สำหรับคนที่ต้องทำงานเสี่ยงอันตรายอย่าง ทหารและตำรวจ ท่านก็ควรตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาทด้วยเช่นกัน แต่หากชีวิตหมดบุญ หมดวาสนา ถึงคราวจะต้องตาย อะไรก็ไม่สามารถยับยั้งไว้ได้อยู่ดีครับ มันคือสัจธรรม

หมวด: บทความ พระเครื่องวัตถุมงคล
ฮิต: 139