ยีนส์ไม่เคยล้าสมัย

เป็นที่ยอมรับสำหรับคนทั่วโลกกันแน่นอนแล้วว่า "กางเกงยีนส์" นั้นใส่ได้ทุกยุคทุกสมัย และไม่มีคำว่าเชย..ซึ่งเราก็ได้เห็นกันแล้วว่าในช่วงเวลานี้แฟชั่นยีนส์ได้หวลกลับมาอีกครั้ง...

ประวัติของยีนส์ (Jeans)

คำว่า ยีนส์ นี้มาจากเหล่ากะลาสีเรือ จากเจนีวาประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเรียกสิ่งที่ตัดเย็บด้วย "ผ้าเดนิม" ว่า "ยีนส์" เดิมทีนั้นยีนส์เป็นผืนผ้าใบที่ใช้ประโยชน์ในเรือ ซึ่งมีสีน้ำตาล ซึ่งผ้าเดนิมนี้ก็ผลิตด้วยฝ้ายจากประเทศฝรั่งเศษ ที่เมือง Nimes ชาวประเทศฝรังเศษเรียกผ้าชนิดนี้ว่า Serge de Nimes. 

ยีนส์ในแต่ละยุค

เริ่มกันที่ ศตวรรษที่ 18 ซึ่งผ้า เดนิม ที่ทอมาไว้สำหรับตัดเย็บ ยีนส์ นั้น มีส่วนผสมของเส้นใยหลายรูปแบบเท่าที่จำเป็นจะหามาได้ แต่เมื่อมีการปลูกฝ้ายเพิ่มมากขึ้นและมีผลผลิตจากฝ้ายมากขึ้น ผ้าเดนิมจึงทอจากฝ้ายล้วนๆ แต่ก็ยังคงเป็นสีของผืนผ้าใบ คือ สีน้ำตาล

กางเกงยีนส์ไม่เคยล้าสมัย

เป็นที่ยอมรับสำหรับคนทั่วโลกกันแน่นอนแล้วว่า "กางเกงยีนส์" นั้นใส่ได้ทุกยุคทุกสมัย และไม่มีคำว่าเชย..ซึ่งเราก็ได้เห็นกันแล้วว่าในช่วงเวลานี้แฟชั่น ยีนส์ ได้หวลกลับมาอีกครั้ง... 

ยีนส์ยุคแรก

ปี 1848 มีการขุดค้นพบทองคำ ใกล้เมืองซานฟรานซิสโก รัฐเคลิฟอร์เนีย ทำให้คนแห่กันไปที่นั่นเพื่อขุดทอง

ถือเป็นช่วงของยุค "ตื่นทอง" ที่เราเคยได้ยินกัน เมื่อมีการทำเหมืองทองคำก็จำเป็นต้องใช้คนงานเยอะ และใช้วัสดุอุปกรณ์เยอะ

นายลีวายส์ สเตราส์ จึงเดินทางมากจากเยอรมัน เพื่อทำธุรกิจค้าขายอุปกรณ์การทำเหมือง รวมถึงชุดทำงานเหมือง

ซึ่งในช่วงนั้นชุดทำงาน ที่คนงานเหมืองใส่มักจะได้รับสภาวะการทำงานที่หนักจึงทำให้ชุดทำงานเปื่อยขาดง่าย

นายจาคอป เดวิส ช่างตัดเสื้อจึงปรึกษากับ นายลีวาส์ สเตร้าท์ ผู้ขายผ้า เดนิม เพื่อตัดชุดคนงานเหมือง ที่ทนทานมากๆ ขึ้นมา

จาคอป เดวิส แนะนำว่าควรตัดด้วย ผ้าเดนิม ที่ใช้ตัดเย็บผ้าใบ มาทำเป็นชุดคนงานเหมือง เมื่อชุดพนักงานเหมืองนั้น จำเป็นต้องใช้สีนำเงิน

ก็ต้องย้อมด้วย Indigo ให้เป็นสีน้ำเงิน หลังจากนั้นก็ยังคงพบปัญหาที่บริเวณรอยต่อกระเป๋าและมุมต่างๆ ซึ่งเปื่อยขาดง่ายเนื่องจากด้ายที่เย็บผ้าหนาๆ นั้นหลุดขาด

จาคอป เดวิส จึงแก้ไขด้วยการนำหมุดทองแดงมาตอกย้ำไว้ตามรอยต่อต่างๆ ซึ่งต่อมานายลีวายส์ สเตราส์ ก็ได้นำไปจดสิทธิบัตร์ และถือกำเนิด ยีนส์ ยี่ห้อแรกของโลกขึ้นมา คือ กางเกงยีนส์ ลีวายส์ (Levi's)

ยุคของยีนส์

ในปี 1886  ทาง Levi's ได้ทำการโฆษณา โดยทำป้ายหนัง ซึ่งมีรูปม้า 2 ตัวกำลังพยายามดึงกางเกงยีนส์ให้ขาดออกจากกันและเย็บติดไปที่ขอบเอวด้านหลังของ กางเกงยีนส์ เป็นการสื่อให้เห็นว่า กางเกงยีนส์ ของเขาแข็งแรงทนทานปานใด

ในปี 1930 คนอเมริกันต่างแต่งตัวใส่ กางเกงยีนส์ ทำตัวเป็นคาวบอยเลียนแบบในภาพยนต์

ในปี 1940 สงครามโลกครั้งที่2 ยีนส์ลีวายส์ ได้นำไปขายให้กับทหารอเมริกันใส่พักผ่อนในวันที่ไม่ได้ออกรบ หลังสงคราม กางเกงยีนส์ ลีวายส์ได้ส่งขายไปทั่วอเมริกา จึงมีคู่แข่งเกิดขึ้นมา คือ Wrangler และ Lee

ในปี 1950-1960 กางเกงยีนส์ ได้รับความนิยมสุดๆ จนทำให้วัยรุ่นต่างใส่ ยีนส์ กันทั่วบ้านทั่วเมือง บางโรงเรียนในอเมริกาจึงต้องสั่งห้ามนักเรียนใส่ กางเกงยีนส์ มาโรงเรียน

ในปี 1970 กางเกงยีนส์ มีราคาถูกลง และได้ถูกนำมาตัดเย็บเป็นเสื้อแจ็คเก็ตยีนส์ เพื่อกันหนาว

ยุคของยีนส์

ในปี 1980 เป็นยุคที่ยีนส์กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง โดยนักออกแบบเสื้อผ้าต่างนำเอาผ้า ยีนส์

มาตัดเย็บและติดโลโก้ของตนเองซึ่งทำให้ ยีนส์ มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจากอดีต

และมีการย้อมสีที่หลากหลาย ซึ่งในตลาดของ ยีนส์ จึงมีการแข่งขันที่สูง และยีนส์ก็กลายมาเป็นแฟชั่นสำหรับคนทุกยุคทุกสมัย ทุกระดับเลยก็ว่าได้