ความเป็นมาของ Levi’s 502 

        บทความก่อนหน้าเราก็พอทราบกันได้บ้างแล้วนะครับว่า กางเกงยีนส์ “LEVI'S” ทำไมจึงใช่รหัส “501” ต่อท้าย ซึ่งก็หมายถึง Lot.การผลิตแรกในเดือน May (5) และเป็นผ้าที่ดีที่สุด ที่รับมาจากโรงทอผ้า มาถึงบทความนี้ก็จะเขียนถึงกางเกงยีนส์ LEVI'S รหัส “Levi's 502” กันบ้าง แต่มันไม่ได้หมายความว่าเป็น Lot.การผลิตที่สองในเดือนห้า เหมือนกับ LEVI'S 501 นะครับ

        ก่อนที่จะกล่าวไปยังรหัส LEVI'S 502 ผมขอย้อนความไปยัง LEVI'S 501 สักเล็กน้อย ในการผลิต กางเกงยีนส์ LEVI'S 501 ที่เริ่มผลิตขึ้นในเดือน May(5) ปี 1873 ในยุคต้นๆ นี้ กางเกงยีนส์ LEVI'S จะใช้โลหะทองแดงในการผลิตกระดุม (Button Fly) และหมุดย้ำ (Rivet) และค่อยๆ เปลี่ยนวัตถุดิบกระดุมกับหมุดย้ำมาเป็นวัสดุโลหะสีเงิน หรืออาจมีผสมกันบ้างทั้ง ทองแดงและโลหะสีเงิน เมื่อผลิต กางเกงยีนส์ LEVI'S 501 ที่เวลาจะถอดกางเกง ต้องปลดกระดุมทีละเม็ดออก และเมื่อผลิตจำหน่ายไปเรื่อยๆ ก็เกิดมีเทคโนโลยีใหม่ขึ้นมา นั่นก็คือ "ซิป" (Zipper) หรือ (Zip Fly) ซึ่งกางเกงที่ติดซิปมีความนิยมมากในแถบทวีปยุโรป และอเมริกตะวันออก กางเกงที่ติดซิปนั้นก็จะให้ความแนบสนิดและเข้ารูปพอดีกับรูปร่างมากกว่ากางเกงที่ติดกระดุม ดังนั้น LEVI'S จึงไม่ยอมพลาดโอกาสและได้เอากางเกงยีนส์ LEVI'S 501XX ไปติดซิป โดยใช้รหัสว่า “LEVI'S 501ZXX”  ขึ้นมาในปี 1954 (Z ย่อมาจาก Zipper) ยังคงเป็นป้าย หนังคอม้า และ หูหลังเบี่ยง มีเปกหลัง ถือเป็นยุคแรกของ LEVI'S แบบซิปนั่นเอง 

LEVI'S 502

         ในปี 1902 ได้ถือกำเนิดสายการผลิตพิเศษขึ้นมานั่นคือ "LEVI'S 502XX" แต่ยังคงเป็นกระดุมเหมือนกันกับ "LEVI'S 501XXในยุคนั้นทุกประการเพียงแต่มีความพิเศษตรงขนาดเอว 44 นิ้วขึ้นไป ซึ่งเหมาะสำหรับคนเอวใหญ่ๆ ซึ่งกระดุมในยุคนั้นก็จะเป็นกระดุมโดนัท โดยเม็ดแรกจะมีช่อมะกอกและกระดุมเม็ดเล็กต่อๆ มาเป็นโดนัทแบบเรียบ กระเป๋าหลังเพนท์สีลายปีกนกและไม่มีการตอกหมุดที่กระเป๋าเล็ก เพราะเป็นช่วงสงครามต้องลดต้นทุนวัตถุดิบ จนถึงปี 1947 สายการผลิตพิเศษนี้ ได้ใช้รหัส "LEVI'S 502SXX" จึงเป็นเรื่องให้ลูกค้าต้องปวดเศียรเวียนเกล้า ระหว่าง "501 กับ 502" มันแตกต่างกันยังไงนอกจากเรื่องของขนาดเอวที่ใหญ่ขึ้นกว่าปกติ ซึ่งในช่วงเวลานี้ LEVI'S 502XX และ LEVI'S 502SXX (S ย่อมาจาก Spacial) ได้ทำการผลิตคู่กันกับ "LEVI'S 501XX และ LEVI'S 501SXX" มาอย่างต่อเนื่อง จนไปถึงปี 1954 นั่นแหละกครับที่ LEVI'S 501XX นำซิปไปติดเข้ากับกางเกงยีนส์ โดยใช้รหัส LEVI'S 501ZXX (Z ย่อมาจาก Zipper)

LEVI'S 501ZXX

ต่อมาในยุคที่2 ปี 1955 มีการเปลี่ยนแปลง “LEVI'S 501ZXX” (Zipper) จากป้ายหนังคอม้าเป็นป้ายปะเก็น มีอักษร คำว่า Every Garment Guaranteed อยู่กลางป้ายเหนือรุ่น 501ZXX เหมือนป้ายหนังคอม้า (สำหรับ LEVI'S 502XX นั้นก็ยังคงเป็นกระดุมเหมือน LEVI'S 501XX)

 

LEVI'S 502

ยุคที่3 ที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นในปี 1957-1963 ป้ายปะเก็นนั้นไม่มีคำว่า Every Garment Guaranteed อยู่ในป้ายแล้ว แต่ยังคงเปกหลัง หูเบี่ยง และมี Lot 501ZXX เหมือนเดิม (สำหรับ LEVI'S 502XX นั้นก็ยังคงเป็นกระดุมเหมือน LEVI'S 501XX)

LEVI'S 502

 

ยุคที่4 ในปี 1966-1971 นั้น LEVI'S 501ZXX ได้เปลี่ยนชื่อเป็น LEVI'S 502-0117 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งการเปลี่ยนชื่อนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากทรงกางเกงยีนส์ LEVI'S 501ZXX ต้นฉบับ ที่เคยใส่ซิปนั่นเอง ซึ่งเป็นการแยกกันชัดเจนระหว่าง LEVI'S 501และ LEVI'S 502 คือรหัส 501 จะเป็นแบบกระดุม ถ้าเป็นรหัส Levi's 502 จะเป็นแบบซิป (Zipper) 

LEVI'S 502

 

ยุคที่5 ในปี 1971-1976 มีการเปลี่ยนป้าย Red Tab (LEVI’S พิมพ์ใหญ่ "Big E" เป็น Levi’s พิมพ์เล็ก) และหลังจากปี 1976 ก็ไม่มีการผลิต Levi’s 502-0117 อีกเลย 

สรุปว่า LEVI'S 502 นั้นมีรูปทรงเป็น LEVI'S 501 คือทรงกระบอกขาตรง  Straight และเป็น Button Fly ทุกประการในยุคต้นๆ เพียงแต่ขนาดเอวจะพิเศษและใหญ่กว่ารุ่น 501 เท่านั้นเอง และต่อมา Levi’s 501ZXX ซึ่งออกแบบเป็นซิป (Zipper) หรือ (Zip Fly) นั้นก็เปลี่ยนชื่อมาเป็น Levi's 502-0117 (Zip Fly) เนื่องจากหากใช้ผ้า (XX) จะมีปัญหากับกางเกงแบบซิป ด้วยเนื่อจากการใส่ซิปเมื่อผ้าหดตัวไปจะทำให้มันฟิตมากๆ ไม่เหมือนแบบ Button Fly สำหรับ รหัส Levi’s 502-0117 ตัวสุดท้ายก็ได้ยุติสายการผลิต ในปี 1976 หลังจากนั้นรหัส LEVI'S 502 ก็จะเป็นงาน LVC (Levi’s Vintage Clothing) 

Jeansza สนับสนุนให้ทุกคนใส่ยีนส์